บ้านครึ่งไม้: ภาพสะท้อนของยุคกลางในโลกสมัยใหม่

บ้านครึ่งไม้ครึ่งแรกปรากฏในเยอรมนีในศตวรรษที่ 15 อาคารมีลักษณะแปลกตา แต่อบอุ่นและทนทาน ในยุโรปตะวันตกคุณสามารถพบบ้านที่สร้างขึ้นเมื่อกว่า 100 ปีที่แล้วซึ่งยังคงรูปลักษณ์ดั้งเดิมไว้ การก่อสร้างอาคารครึ่งไม้ต้องมีความรู้ในการสร้างโครงแข็งวงเล็บปีกกาและคานที่จะรองรับน้ำหนักของโครงสร้าง การตกแต่งภายในบ้านจะต้องเข้ากับสไตล์

อาคารครึ่งไม้ดูสดใสและเรียบร้อย

บ้านครึ่งไม้คืออะไร: ประวัติต้นกำเนิดและวิวัฒนาการของสไตล์

เทคโนโลยีการสร้างเฟรมเริ่มใช้ในยุโรปเมื่อ 5 ศตวรรษที่แล้ว จากนั้นวัสดุหลักมีเพียงไม้และหิน วิธีการสร้างบ้านครึ่งไม้มีต้นกำเนิดในประเทศเยอรมนี คำนี้ในการแปลจากภาษาเยอรมันหมายถึง "การสร้างกรอบ" ภายนอกอาคารครึ่งไม้นั้นง่ายต่อการจดจำด้วยลักษณะเฉพาะ - คานที่ยื่นออกมาจากผนังซึ่งเนื่องจากทางแยกทำให้เกิดรูปแบบต่างๆ

Fachwerk เป็นเทคโนโลยีสำหรับการสร้างบ้านในลักษณะกรอบ

น่าสนใจ! เมื่อเวลาผ่านไปคานที่เปิดโล่งจะมืดลงซึ่งจะเพิ่มความแปลกประหลาดให้กับบ้าน

โครงไม้ถูกใช้ครั้งแรกในอียิปต์โบราณและจีน เนื่องจากไม้เป็นวัสดุก่อสร้างเพียงชนิดเดียวมานานการก่อสร้างประเภทนี้จึงเป็นเรื่องปกติโดยเฉพาะในพื้นที่ป่า อาคารครึ่งไม้ครึ่งแรกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของคานที่ขุดลงไปในพื้นดินหรือดินเหนียว ฐานดินทำหน้าที่เป็นพื้น ผนังมักจะเต็มไปด้วยดินเหนียวและทรายและหลังคาทำด้วยฟาง แน่นอนว่าอุปกรณ์รองรับที่ขุดได้นั้นอยู่ได้ไม่นานเพราะมันอยู่ในความชื้นคงที่ พวกมันผุพังและพังทลายตามกาลเวลา

หลังจากนั้นไม่นานเบาะที่ทำจากหินฝังอยู่ในพื้นดินก็เริ่มถูกวางไว้ใต้คานจุดประสงค์หลักคือการระบายความชื้นส่วนเกินออกจากองค์ประกอบที่เป็นไม้ สารละลายดินเหนียวเสริมด้วยฟางและกิ่งไม้ ด้วยการพัฒนาการต่อเรือทำให้การสร้างบ้านดีขึ้น พวกเขาเริ่มใช้ชิ้นส่วนใหม่เช่นคานเสาและเสาสี่เหลี่ยม พวกเขาเริ่มใช้คานเอียงเพื่อรองรับบ้านจากภายนอก

บ้านโครงไม้เริ่มสร้างในประเทศจีนและอียิปต์โบราณ

การก่อสร้างบ้านครึ่งไม้เป็นที่นิยมในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย: เนเธอร์แลนด์สวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส แต่ละประเทศเพิ่มองค์ประกอบของตัวเอง รากฐานของหินและท่อนไม้ถูกใช้ในตอนต้นของศตวรรษที่ 16 เท่านั้น อาคารครึ่งไม้ที่ทันสมัยเริ่มพัฒนาในปี 1970 ในขณะนี้กระแสการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกำลังได้รับแรงผลักดัน

ลักษณะเฉพาะและลักษณะของโครงการบ้านครึ่งไม้

คำแปลโดยตรงของคำว่า "fachwerk" คือ "การก่อสร้างในส่วนต่างๆ" ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสาระสำคัญของสไตล์ บ้านที่สร้างโดยใช้เทคโนโลยีครึ่งไม้สามารถแยกแยะได้ด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้:

1. โครงสร้างเฟรมของคานและจันทันเป็นรูปทรงที่หลากหลายบนด้านหน้า
2. การผสมสีโดยหลักการสำคัญคือคอนทราสต์ สีที่แตกต่างกันขององค์ประกอบแต่ละส่วนของซุ้มมักจะรวมกัน
3. หน้าต่างจำนวนมาก เพื่อให้แน่ใจว่าแสงแดดส่องเข้ามาในห้องทั้งหมด
4. จำเป็นต้องมีเตาไฟ

ด้วยความช่วยเหลือของคานและจันทันรูปทรงต่างๆจะเกิดขึ้นที่ด้านหน้าของอาคาร

ขอแนะนำให้ตกแต่งบ้านในสไตล์บ้านครึ่งไม้บนซุ้มที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดเผยสาระสำคัญและศักดิ์ศรีของการออกแบบโดยใช้กับบ้านหลังเล็ก ๆ ปัจจุบันเทคโนโลยีการก่อสร้างอยู่ในระดับที่สูงขึ้นกว่าเมื่อบ้านหลังแรกปรากฏตัว คุณสามารถเร่งกระบวนการสร้างอาคารโดยใช้แผ่นสำเร็จรูปแผ่นโพลีโพรพีลีน

สิ่งสำคัญ! วัสดุทั้งหมดที่จะใช้ในการก่อสร้างต้องได้รับการป้องกันเชื้อราชุบด้วยส่วนผสมที่ใช้ในการดับเพลิงและเปิดด้วยวานิช

องค์ประกอบหลักและกฎสำหรับการก่อสร้างบ้านครึ่งไม้: ภาพถ่าย

เพื่อป้องกันการสลายตัวของคานฐานคุณต้องพิจารณาการกันซึม ด้วยเหตุนี้ชั้นของวัสดุป้องกันจะถูกวางไว้บนฐานราก ในขั้นตอนการก่อสร้างต้องใช้เม็ดมะยมรัดหน้าตัดซึ่งมีขนาด 5 × 20 ซม. วัสดุหลักสำหรับการก่อสร้างคือคานต้นสนที่เป็นของแข็งหรือติดกาว โครงหุ้มด้วยแผ่นโพลีโพรพีลีนหรือขนแร่ สิ่งนี้ไม่เพียง แต่ช่วยปกป้องบ้านจากความชื้นและการซึมผ่านของความเย็น แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างด้วย ด้านล่างนี้เป็นองค์ประกอบหลักของโครงการครึ่งไม้

โครงของบ้านครึ่งไม้ทำด้วยคานขัดเงาหรือติดกาว

รากฐาน. เนื่องจากกรอบของบ้านครึ่งไม้มีน้ำหนักเบาและแข็งจึงมักสร้างรากฐานที่ตื้น ก่อนการก่อสร้างควรดำเนินงานวิศวกรรมทางธรณีวิทยาเพื่อประเมินคุณสมบัติและลักษณะของดินในสถานที่ก่อสร้าง ฐานต้องหุ้มฉนวนและกันซึมด้วยแผ่นโพลีสไตรีนที่ขยายตัวและขนแร่ สลักเกลียวใช้เพื่อเชื่อมต่อฐานรากและส่วนล่างของเฟรม

กรอบ ก่อนหน้านี้การก่อสร้างบ้านครึ่งไม้ทำจากท่อนไม้และเสาตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยไม้ติดกาวหรือขัดเงา ชิ้นส่วนของผนังหลังคาและระเบียงเชื่อมต่อกันด้วยองค์ประกอบไม้ วิธีการหลักในการยึดคือคนครึ่งคน "ไม้กางเขนเซนต์แอนดรูว์" Wildermann และ mann การเชื่อมต่อทั้งหมดควรคำนึงถึงในขั้นตอนของการสร้างโครงการที่บ้าน

ผนังรับน้ำหนัก บ้านครึ่งไม้สไตล์เยอรมันแสดงให้เห็นว่าการเติมระหว่างคานไม่ได้มีบทบาทเป็นฐานรับน้ำหนักของอาคาร งานหลักของผนังคือการแบ่งเขตพื้นที่ ด้วยเหตุนี้คุณสามารถทำการพัฒนาขื้นใหม่ได้

สามารถใช้วัสดุใดก็ได้สำหรับอาคารครึ่งไม้

เติมเซลล์ในผนัง เพื่อจุดประสงค์นี้จะใช้วัสดุใด ๆ ส่วนใหญ่มักใช้เพลตเป็นพาร์ติชันภายในซึ่งโดดเด่นด้วยคุณสมบัติของไอสูงและฉนวนกันความร้อน การหุ้มผนังและการตกแต่งเป็นทางเลือก

คุณสมบัติของการก่อสร้างอาคารและการสร้างโครงการสำหรับบ้านครึ่งไม้

ลักษณะเด่นของบ้านครึ่งไม้สไตล์เยอรมันคือโครงมีหน้าที่รับน้ำหนักหลักและผนังจะแยกช่องว่างออกจากกันเท่านั้นการใช้พื้นฐานของเทคโนโลยีเฟรมเฟรมทำให้ไม่เพียง แต่ประหยัดวัสดุก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังช่วยลดน้ำหนักรวมของอาคารด้วย ด้วยเหตุนี้จึงมักใช้รองพื้นรุ่นน้ำหนักเบา วิธีการสร้างกรอบช่วยให้มั่นใจได้ถึงความมั่นคงและความแข็งแกร่งของอาคารทั้งหมดและยังช่วยลดเวลาในการก่อสร้าง

แนะนำให้ใช้หลังคาและองค์ประกอบรองรับอื่น ๆ ทำจากไม้วีเนียร์เคลือบไม้สนและไม้สนกลายเป็นวัสดุสำหรับการเลือก คานและเสาแนวนอนเป็นกรอบของผนัง วงเล็บปีกกาในแนวทแยงสร้างความแข็งแกร่งของเฟรมและทำหน้าที่ป้องกันเพิ่มเติมในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหว สำหรับการรัดที่ต่ำกว่าของบ้านมักใช้แถบซึ่งยึดกับฐานรากด้วยสลักเกลียว ฐานของบ้าน (ตามเทคโนโลยี fachwerk ของเยอรมัน) ถูกปิดทับด้วยชั้นกันซึมแยกจากกันเพื่อจุดประสงค์นี้จะใช้แผ่นโพลีสไตรีนที่ขยาย

โครงการบ้านสองชั้นครึ่งไม้พร้อมหน้าต่างพาโนรามา

พาร์ติชันภายในอาคารยังมีโครงสร้างเฟรมและทำจากไม้ซึ่งยึดติดกับส่วนรองรับด้วยเดือยกรอบ พื้นที่ว่างนั้นเต็มไปด้วยวัสดุกันเสียง โครงสร้างรองรับจะติดตั้งโดยใช้ข้อต่อเช่นรอยตัด "ประกบประกบ" และ "เข็มลับ" เมื่อเร็ว ๆ นี้ตัวยึดแบบซ่อนได้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้มุมโลหะแผ่นและตัวยึด

วิธีตกแต่งส่วนหน้าของบ้านครึ่งไม้: ภาพถ่ายตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ

การหุ้มด้านหน้าจะเริ่มทำงานหลังจากการติดตั้งหน้าต่างและประตูเสร็จสิ้นแล้วเท่านั้น วัสดุต่อไปนี้เหมาะสำหรับการตกแต่งบ้านครึ่งไม้:

• ไม้สนที่ผ่านการบำบัดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
• แผงโพลีเมอร์ - ตัวเลือกยอดนิยมสำหรับต้นทุนต่ำ
• พาร์ติเคิลบอร์ดซีเมนต์
• ซับ;
• ไม้อัดที่มีคุณสมบัติกันน้ำ
• แผ่นใยยิปซั่ม

การหุ้มบ้านทำได้หลังจากติดตั้งประตูและหน้าต่างทั้งหมดแล้ว

มีหลายทางเลือกสำหรับการตกแต่งบ้านครึ่งไม้ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นการออกแบบซุ้มที่เข้มงวดและสง่างามสำหรับการสร้างช่องว่างจะถูกทาสีด้วยสีที่ต้องการแล้วติดตั้งบนฐานของโครงสร้าง ฉนวนกันความร้อนของอาคารดำเนินการโดยใช้แร่หินบะซอลต์หรือใยควอตซ์ ด้านล่างนี้คุณสามารถดูภาพถ่ายต้นฉบับของการตกแต่งภายนอกของบ้านในสไตล์ครึ่งไม้

มันน่าสนใจ! บ้านหลังแรกที่สร้างขึ้นตามเทคโนโลยีของเยอรมันได้รับการตกแต่งด้วยเครื่องรางตามมุมของอาคาร สันนิษฐานว่าตัวอักษร S ป้องกันบ้านจากฟ้าผ่า ดอกกุหลาบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการดึงดูดความมั่งคั่งให้กับบ้าน หน้ากากที่ปรากฎตามชาวบ้านปกป้องพวกเขาจากวิญญาณชั่วร้าย

หากคุณดูรูปถ่ายของบ้านสมัยใหม่จะเห็นได้ง่ายว่าการตกแต่งในรูปแบบของกระจกแบบพาโนรามานั้นเป็นเรื่องธรรมดามาก ดำเนินการโดยใช้ชุดกระจกที่มีการปล่อยมลพิษต่ำประหยัดความร้อน โดยปกติแล้วจะเลือกตัวเลือกที่ขึ้นอยู่กับฟิลเลอร์อาร์กอน การใช้หน้าต่างกระจกสองชั้นดังกล่าวช่วยลดการสูญเสียความร้อนซึ่งช่วยให้คุณประหยัดการทำความร้อนในฤดูหนาว ส่วนใหญ่ใช้หน้าต่างพาโนรามาของคนตาบอดพร้อมการติดตั้งกรอบเปิดที่หายาก บางครั้งกระจกประเภทนี้ยังส่งผลกระทบต่อบางส่วนของหลังคา เพื่อเน้นรูปแบบของด้านหน้าให้ใช้:

ในขณะนี้บ้านครึ่งไม้พร้อมหน้าต่างพาโนรามาเป็นที่นิยมอย่างมาก

1. หินตกแต่งและหันหน้าไปทางที่ใช้ในการตกแต่งชั้นใต้ดิน สำหรับวัตถุประสงค์เดียวกันควรหันหน้าไปทางอิฐหรือวัสดุที่ทันสมัยอื่น ๆ
2. หน้าต่างมีลักษณะโค้ง รูปแบบโค้งและหน้าต่างที่ตกแต่งด้วยบานประตูหน้าต่างจะเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับการออกแบบภายนอกของอาคารในรูปแบบเก่า หน้าต่างถูกแทรกลงในฐานเฟรมโดยตรง
3. การใช้สีที่ตัดกัน ในภาพของบ้านในเยอรมันอาคารครึ่งไม้จำเป็นต้องมีความโดดเด่นด้วยหลังคากระเบื้องสีแดงและประตูขนาดใหญ่ซึ่งทาสีด้วยสีที่ตัดกัน (เทียบกับซุ้ม)
4. หลังคาแหลมที่สวยงามตามเนื้อผ้าหลังคาสองหรือสี่ลาดทำโดยใช้ระบบขื่อซึ่งมีลักษณะยื่นออกมากว้างซึ่งทำหน้าที่ป้องกัน วัสดุหลักในการเคลือบ ได้แก่ กระเบื้องโลหะหลังคาอ่อนหรือออนดูลินไม่แนะนำให้ทำให้โครงสร้างหนักขึ้นโดยใช้หินชนวนหรือกระเบื้องธรรมชาติ

สำหรับการตกแต่งซุ้มคุณสามารถใช้หินหรืออิฐหันหน้าไปทาง

มันน่าสนใจ! โครงการบ้านครึ่งไม้ส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารที่ไม่มีห้องใต้หลังคาและห้องใต้หลังคา

ระบบสาธารณูปโภคน้ำประปาและสายไฟฟ้าวางอยู่ในท่อลูกฟูกใต้พื้นผิว ในการวางท่อผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้ท่อโพลีเอทิลีนคุณภาพสูง เดินสายไฟฟ้าไปยังซ็อกเก็ตและสวิตช์ภายในพาร์ติชัน บางครั้งต้องใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจแบบบังคับ

บทความที่เกี่ยวข้อง:

บ้านสไตล์ชาเล่ต์: ความซับซ้อนที่ทันสมัยของสถาปัตยกรรมอัลไพน์

วิธีตกแต่งซุ้มอาคารและภายใน องค์ประกอบที่สำคัญของบ้าน: วิธีการเลือกสิ่งทอแสงและเฟอร์นิเจอร์

บ้าน Fachwerk: ข้อดีและข้อเสีย

ชาวเยอรมันเข้าหาธุรกิจใด ๆ ด้วยความรอบคอบเป็นพิเศษเช่นเดียวกับการก่อสร้างบ้าน วิธีการที่มีเหตุผลและการปฏิบัติจริงถูกนำมาใช้ในการก่อสร้างอาคาร ในเยอรมนีคุณสามารถเห็นบ้านที่มีอายุมากกว่า 200-300 ปีซึ่งยังคงรูปลักษณ์ที่สวยงาม เนื่องจากในระหว่างการก่อสร้างมีการคิดโครงการอย่างชัดเจนและเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้าง นอกจากนี้ผู้สร้างไม่ประหยัดในการประมวลผลชิ้นส่วนส่วนประกอบ ข้อดีอื่น ๆ ของบ้านสไตล์เยอรมัน:

การสร้างอาคารครึ่งไม้เป็นผลกำไรทางการเงินและรวดเร็ว

1. อุทธรณ์ภายนอก ทั้งในชีวิตจริงและในภาพถ่ายบ้านครึ่งไม้โดดเด่นกว่าอาคารอื่น ๆ : ดูแปลกตาและสวยงาม
2. ระยะเวลาก่อสร้างสั้น โดยปกติแล้วบ้านครึ่งไม้แบบครบวงจรจะสร้างขึ้นใน 3-4 เดือน
3. การทำกำไร. การลดต้นทุนการก่อสร้างเกิดขึ้นเนื่องจากการประหยัดในการก่อสร้างฐานราก
4. การหดตัวเล็กน้อย ฐานโครงและซุ้มไม้ บ้านทำด้วยไม้วีเนียร์เคลือบน้ำหนักไม่แตกต่างกันและให้การหดตัวน้อยที่สุด สิ่งนี้ช่วยให้คุณสามารถดำเนินการตกแต่งภายในบ้านได้ทันทีหลังจากสร้างฐาน
5. ในร่มมีแดดจ้า คุณสมบัติที่โดดเด่นของการออกแบบช่วยให้สามารถจัดวางหน้าต่างแบบพาโนรามาขนาดใหญ่ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ทุกห้องได้รับแสงจากดวงอาทิตย์
6. ตำแหน่งที่สะดวกในการสื่อสาร คุณสมบัติการก่อสร้างทำให้ง่ายต่อการซ่อนสายไฟฟ้าและท่อน้ำในซอกที่เกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้างบ้าน

นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ของเค้าโครงใด ๆ เนื่องจากเฟรมทำหน้าที่รับน้ำหนักหลักจึงสามารถวางแผนรูปแบบของห้องในการออกแบบใดก็ได้ โครงการบ้านครึ่งไม้อาจมีพื้นที่ขนาดใหญ่ - 65-75 ตร.ม. ในขณะที่ไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องการสนับสนุนเพิ่มเติม คุณสมบัติของอาคารช่วยให้คุณสามารถใช้งานบ้านได้ในทุกสภาพอากาศ

สำหรับบ้านโครงอาจต้องใช้ฉนวนกันความร้อนและกันซึมเพิ่มเติม

ข้อเสียเปรียบหลักของบ้านครึ่งไม้คือต้นทุนสูง การพัฒนาและดำเนินการออกแบบอาคารครึ่งไม้จะมีราคาแพงกว่าการสร้างบ้านโครงธรรมดาในพื้นที่เดียวกัน ราคาของบ้านสำเร็จรูปแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการตกแต่งภายนอกของซุ้มจำนวนและคุณภาพของหน้าต่างรวมถึงวัสดุที่เลือก ข้อเสียอื่น ๆ ของบ้านเยอรมัน:

1. ความจำเป็นในการแปรรูปโครงสร้างไม้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บ้านอยู่ได้นานขึ้นคุณควรฆ่าเชื้อต้นไม้จากปรสิตเชื้อราและทำให้ชุ่มด้วยส่วนผสมที่ทนไฟ
2. หากบ้านถูกสร้างขึ้นในสภาพอากาศที่ยากลำบาก (ความชื้นสูงหรืออุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีต่ำ) จำเป็นต้องมีฉนวนและกันซึมเพิ่มเติมในอาคารดังกล่าวโดยเฉพาะที่ชั้นล่างขอแนะนำให้พิจารณาการมีพื้นอุ่น
3. พื้นที่กระจกขนาดใหญ่ เพื่อให้อาคารมีความแข็งแรงสูงควรใช้หน้าต่างหุ้มเกราะหรือสามด้าน

ในบ้านเฟรมสามารถจัดเลย์เอาต์ใด ๆ ได้เนื่องจากไม่มีผนังรับน้ำหนัก

รายละเอียดปลีกย่อยของการออกแบบภายในของบ้านในสไตล์เยอรมันครึ่งไม้

เนื่องจากไม่มีผนังรับน้ำหนักภายในอาคารจึงสามารถวางพาร์ติชันได้ตามคำร้องขอของผู้อยู่อาศัยซึ่งทำให้สามารถสร้างเลย์เอาต์ที่เป็นเอกลักษณ์ได้ ข้อดีประการที่สองของโครงการบ้านครึ่งไม้คือเพดานสูงช่วยให้คุณสร้างห้องที่มีสองระดับและจัดเรียงเฟอร์นิเจอร์ตามจำนวนที่ต้องการได้อย่างอิสระ

ในการออกแบบตกแต่งภายในจำเป็นต้องคำนึงถึงว่าคานที่ประกอบเป็นกรอบของอาคารจะเป็นองค์ประกอบภายในเพิ่มเติมที่ไม่ควรซ่อนเพราะเป็นลักษณะที่โดดเด่นของบ้านครึ่งไม้ (ภาพถ่ายแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน)

หากคุณทาสีคานเป็นสีขาวพวกเขาจะเพิ่มพื้นที่ให้มองเห็นได้ สีดำจะช่วยเพิ่มความสง่างามให้กับบ้าน เพื่อรักษาลักษณะที่เป็นธรรมชาติของคานไม้ควรใช้สารละลายพิเศษโดยไม่ต้องใช้สารเคลือบเงา ถ้าออกแบบ บ้านทำในสไตล์ไฮเทค หรือห้องใต้หลังคาคานโลหะจะถูกปล่อยให้อยู่ในสายตาที่ไม่เปลี่ยนแปลง

การตกแต่งภายในบ้านครึ่งไม้บ่งบอกถึงการมีเตาผิง

สำคัญ! คุณสมบัติหลักของบ้านที่สร้างโดยใช้เทคโนโลยีของเยอรมันคือเค้าโครงฟรีพร้อมความสามารถในการออกแบบห้องขนาดใหญ่

ตามกฎแล้วการตกแต่งภายในของสถานที่ควรจะกลมกลืนกับภายนอกของอาคาร ในภาพของบ้านในสไตล์บ้านครึ่งไม้คุณจะเห็นว่ามีองค์ประกอบไม้จำนวนมากในการออกแบบห้องและยังใช้หินและไม้ตกแต่งร่วมกัน ไม้มักใช้ในการปูพื้นคานผนังกรอบบันไดและเตาผิงตกแต่งด้วยวัสดุก่ออิฐ

มักใช้กระจกในการตกแต่งภายในซึ่งสามารถทำจุกที่บันไดหรือโต๊ะในครัวได้ โดยทั่วไปภายในบ้านครึ่งไม้ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับสไตล์ใด ๆ การตกแต่งภายในใด ๆ ก็สามารถเข้ากับพื้นที่ได้อย่างกลมกลืน ข้อกำหนดหลักคือหน้าต่างแบบพาโนรามาขนาดใหญ่และเตาผิง

บ้านครึ่งไม้มีขนาดกว้างขวางและมีเพดานสูง

วิธีตกแต่งอาคารครึ่งไม้ด้วยมือของคุณเอง

พื้นฐานของบ้านครึ่งไม้เป็นโครงสร้างกรอบ ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มการก่อสร้างอาคารคุณควรทำความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีการก่อสร้างนี้ ในเวลาเดียวกันจำเป็นต้องคำนวณภาระบนฐานรากอย่างชัดเจนเพื่อให้บ้านยืนได้นานขึ้น ต้องวางชั้นป้องกันการรั่วซึมบนฐานซึ่งช่วยป้องกันองค์ประกอบโครงสร้างไม้จากความชื้น นอกจากนี้คุณต้องคลุมคานด้วยสารต้านเชื้อราและสารดับเพลิงซึ่งจะมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมตลอดเวลา

ก่อนที่จะเริ่มออกแบบส่วนหน้าของบ้านให้สร้างภาพวาดด้วยมือของพวกเขาเอง โครงการที่เหมาะสมของโครงสร้างดังกล่าวสามารถนำมาเป็นพื้นฐานได้ เมื่อวางเลียนแบบคานอย่าลืมเกี่ยวกับหลักการสำคัญของการก่อสร้างในสไตล์เยอรมัน แผงที่เติมกรอบจะต้องติดกับโครงสร้างของบ้าน ก่อนเริ่มงานคุณควรตรวจสอบความพร้อมของเครื่องมือเช่น:

• สว่านและไขควง
• ตลับเมตรและระดับอาคาร
• เครื่องหมายสีดำเพื่อมาร์กอัป
• เลื่อยสำหรับโลหะ
• การฝึกซ้อมปลายและวงกลม
• พุกโลหะ
• มาสเตอร์โอเค

คานของอาคารสามารถทาสีด้วยสีใดก็ได้ - สว่างหรือตัดกับด้านหน้า

ประการแรกแผงฉนวนกันความร้อนถูกติดไว้ที่ด้านหน้ามักใช้โพลีเมอร์โฟม ควรพิจารณาความหนาของบอร์ดล่วงหน้าเพื่อให้พอลิเมอร์พอดีกับด้านล่างซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงสะพานเย็น ด้านบนของฉนวนมีตาข่ายไฟเบอร์กลาสติดอยู่เพื่อเป็นชั้นเสริมแรงสำหรับปูนปลาสเตอร์ คานเท็จได้รับการแก้ไขบนผนังผ่านชั้นของฉนวนขั้นแรกติดตั้งชั้นวางและคานจากนั้นจึงติดตั้งวงเล็บปีกกา ความกว้างของคานควรมีอย่างน้อย 15 ซม. และระยะห่างระหว่างเสาไม่ควรเกิน 60 ซม. หากมีช่องว่างระหว่างบอร์ดกับโพลีเมอร์ให้ใช้กาวยาแนว หลังจากปูนปลาสเตอร์แข็งตัวดีแล้วองค์ประกอบต่างๆจะถูกทาสีด้วยสีที่ต้องการ

บ้านที่สร้างในสไตล์ครึ่งไม้ไม่เพียง แต่ดูสวยงาม แต่ยังรักษาศีลในยุคกลางและยังดูแปลกตาอีกด้วย ด้านหน้าได้รับการตกแต่งด้วยตัวเลือกต่างๆสำหรับการทอคานและไม้ค้ำยัน ความคิดริเริ่มของสไตล์เน้นด้วยหน้าต่างพาโนรามาขนาดใหญ่ที่ทำให้พื้นที่ของบ้านเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติและความสะดวกสบาย การจัดวางผนังภายในฟรีช่วยให้คุณสร้างรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์และกว้างขวาง